เหรียญรุ่นแรก เทวดาใหญ่ หลวงพ่อนนท์ วัดหนองโพธิ์ ปี๒๔๘๐

บล็อกฝาบาตร เนื้อฝาบาตร (นิยม)
หลวงพ่อนนท์ได้อุปสมบท ที่วัดสะเม็ด อำเภอศรีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ในปี พ.ศ.๒๔๔๑
หลังจากอุปสมบทแล้วพากเพียรได้ศึกษาพระธรรมวินัย จนีความรู้พอสมควรจึงออกธุดงค์ไปเรื่อยๆผ่านมาทางอรัญประเทศ จ.สระแก้ว และมาพำนักอยู่ที่วัดศรีเมือง อ.เมือง จ.นครนายก หลังจากนั้นได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ และพักจำพรรษาอยู่ที่วัดสุทัศนฯ เพื่อศึกษาภาษาบาลีอยู่นานเป็นเวลา ๘ ปี จนกระทั่งสอบได้เปรียญธรรม ต่อมาจึงได้เดินทางกลับไปพำนักที่วัดศรีเมือง จ.นครนายก เพื่อศึกษาวิชาการต่างๆกับหลวงพ่อเลื่อง เจ้าอาวาสวัดศรีเมือง เป็นเวลาหลายปี
ลุมาถึง พ.ศ.๒๔๗๐ หลวงพ่อเรือง เจ้าอาวาสวัดศรีเมือง เห็นว่ามีความรู้ความสามารถพ่อสมควร จึงได้เเต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองโพธิ์ อ.เมือง จ.นครนายก ท่านได้พัฒนาวัดจนรุ่งเรือง เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๕ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรที่(พระครูนนท์ธรรมคุณ) พ.ศ.๒๔๘๕ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อนนท์นอกจากเชี่ยวชาญด้านมิทยาคมและไสยศาสตร์แล้ว ท่านยังมีความชำนาญด้านการแพทย์แผนโบราณ จนได้รับขนานนามว่า หมอเทวดา
สมัยที่ท่านยังคงดำรงขันธ์อยู่ ได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายอย่าง ในปี พ.ศ.๒๔๗๕ ได้สร้างพระผงไว้ ๕ พิมพ์ ต่อมา ปีพ.ศ.๒๔๘๐ ได้สร้างเหรียญรุ่นแรกคือเหรียญ พระพุทธปฏิมากรณ์รูปยันต์แบบสี่เหลี่ยม(แจกผู้ชาย)และแบบพุ่มข้าวบิณฑ์(แจก แม่ครัว) ต่อมาปีปีพ.ศ.๒๔๙๙ ได้สร้า่งเหรียญรุ่น๓ คือเหรียญอาร์ม(มีเฉพาะเนื้ออัลปาก้า) วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์เด่นทางแคล้วคลาด คงกระพัน มหาอุด และยังป้องกันคุณไสย ทั้งเขี้ยวงาของสัตว์ร้ายต่างๆ
ในด้านเครื่องราง ของขลังศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อเป็นผู้ทรงวิทยาคุณในทางนี้ผู้หนึ่ง มีลูกศิษย์มากมาย ในสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒ ท่านไม่ค่อยให้ของใครง่ายนัก เพราะในยุคนั้นบ้านเมืองอยู่สุขสบาย โจรผู้ร้ายมีน้อย พอสงครามเกิดขึ้น ท่านเห็นว่าเป็นทางหนึ่งที่จะช่วยประเทศชาติได้ เพื่อป้องกันความสงบภายในและภายนอก จึงมอบของขลังให้แก่ศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย ยิ่งถ้าท่านทราบว่าคนไหนเป็นทหาร ตำรวจแล้ว ท่านจะยินดีมอบให้ทีเดียว เพราะท่านว่าพวกนี้เป็นกำลังของประเทศชาติ และก่อนจะมอบ จะประสิทธิ์ให้ ท่านจะต้องสอนให้ศิษย์ยึดมั่นในคุณงามความดี ไม่ให้นำของๆ ท่านไปให้ในทางที่ผิด ให้ถือหลักที่ว่า ดี บุก, ชั่ว ถอย
หลวงพ่อนนท์ เป็นที่รักเคารพของชาวบ้านและประชาชนทั่วไป ท่านอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของศิษยานุศิษย์ จนอายุได้ ๘๗ ปี ๖๖ พรรษา ก็ได้มรณภาพลงเมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๗